วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จะปีใหม่อยู่แล้วหลาย ๆ คนก็ห่วงเรื่องอายุ วันนี้ขอบ่นเรื่องใกล้ ๆ อายุหน่อย

ปี ๆ ผ่านไปแป้บเดียวเอง ... ไวเหมือนตื่นจากฝัน


พักนี้เด็กที่หอพักผมคนหนึ่งเรียกผมว่า "น้า" โอ้ แม่เจ้า เหมือนสายฟ้าฟาดผ่าลงกลางใจ เจ้ยยยย เป็นพี่มาหลายปี ปีนี้มีคนเรียกน้า   ผมอายุ 31 ขวบ ปกติแล้วผมจะโดนเฉพาะกับเด็กเล็ก ๆ ที่เรียกผมว่าน้า (ซึ่งผมก็มีหลานนะ ลูกของพี่ชาย ลูกของพี่สาว ตัวเล็ก ๆ) นี่โดนเด็กอายุ 18 - 19 เรียกน้า  ..... เห่อ ... ตายละวา

อย่ากระนั้นเลยมานั่งคิดถึงโอกาสความเป็นไปได้กันดีกว่า  ถ้าน้องอายุ 19 เรียกผมว่าน้า ... อืม น้าก็คงรุ่นแม่ .... 31 - 19 = 12 ปี นั่นแปลว่าแม่เขามีเขาตั้งแต่อายุ 12 (ขออีโมหน้าตกใจ)   แต่น้า ก็คือน้องของแม่ นั่นหมายความว่า ถ้าแม่เขามีลูกตั้งแต่อายุ 18 ก็ยังได้อยู่นะ แต่จริง ๆ แล้วบางคนมีลูกตั้งแต่ 18 นี่ก็เยอะนะ  อย่างลูกพี่ลูกน้องผมนะเรียนมัธยมยังไม่จบเลยก็มีลูกเสียแล้ว

วันนี้หลานผมชื่อว่าโบกี้ เป็นลูกของพี่ชาย มาบอกผมว่าให้พิมพ์คำว่า succeed ให้หน่อย  ผมก็งงเลยถามกลับไปว่า "อ้าว แล้วทำไมไม่พิมพ์เองหล่ะ"  ด้วยความที่สงสัยเด็ก ป.1 ทำไมถามถึงศัพท์คำนี้ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าสงสัยจะเป็นการบ้าน ... งั้นให้หลานทำเองดีกว่า ก็เลยบอกหลานไปอีกว่า "ทำไมไม่พิมพ์เองหล่ะ พิมพ์เองสิ"  โบกี้มันก็ตอบว่า "พิมพ์ไม่เป็น"  ผมก็ถามไปอีก "อ้าวแล้วทำไมที่โรงเรียนไม่ได้สอนเหรอ" แล้วแม่ไม่อยู่เหรอ ให้แม่พิมพ์ให้สิ

เจ้าโบกี้มันก็ทำท่าเว้าวอนอยากให้ผมไปช่วยมันพิมพ์หน่อย เดินจูงมือ ผมก็เลยเดินตามไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่บ้านพี่ชาย ซึ่งหน้านี้มันก็เปิด YouTube อยู่ พอไปถึงมันก็นั่งเลย มันก็บอกผมว่า "เนี่ยน้าชัย หนังหน่ะ ซัคซี้ด" ตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วคงไม่ใช่การบ้านแหง๋ ๆ

ถามไปถามว่าได้ความว่ามันจะดูหนังไทยเรื่อง "ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ"  โอ้แม่เจ้า เด็ก ป. 1 จะดู suck seed


บอกตามตรง เกิดคำถามตามมามากมาย ว่าทำไมเด็ก ป.1 ถึงรู้จักหนัง ... นี่มันหนังสำหรับเด็กวัยรุ่นนะเฟ้ย เพราะผมคิดว่าเด็ก ป.1 มันจะเข้าใจเหรอว่าหนังพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง

ทำให้เราก็อดนึกย้อนไปไม่ได้ว่าสมัยเราอยู่ ป.1 เรารู้จักหนังไหม คำตอบคือไม่รู้จักนะ ไม่รู้จักเลยดีกว่า เพราะสมัยก่อนเราก็ดูทีวี ส่วนมากจะแย่งพี่สาวดูการ์ตูนมากกว่า ไม่ดูละครจักร ๆ วงศ์ ช่อง  7 หรอก แต่พี่สาวชอบดู ของผมนี่ก็ต้อง โดเรมอน เซนต์เซย่า ดราก้อนบอล อาราเล่ น้าต๋อยช่องเก้า ซุปเปอร์จิ๋ว โน่น

ทำไมเด็ก ป.1 ถึงอยากดูหนังเรื่องนี้จริงหว่า (สงสัยต้องโหลด torrent มาดูซะแล้ว) ผมหน่ะแค่รู้จักชื่อหนังนะเพราะว่าเมื่อสองปีที่แล้วน้องชายแอนมันมาอยู่หอ ช่วงปิด summer หนังเรื่องนี้ก็เข้าโรงพอดี น้องชายแอน (ชื่ออาร์ม) ก็เห็นพูดถึงอยู่ เพราะจ้าวนี้เขาบ้ากลอง มีความฝันอยากเล่นดนตรีให้สาว ๆ กรี๊ด (โอ๊ะ 17 มีนา วันเกิดผมเลยนี่หว่า ... แอบไปเห็นในรูป)

ก็เลยนึกย้อนไปถึงสมัยเด็ก ๆ ก็จำความได้นะสมัย ป.1 โรงเรียนเป็นอาคารไม้พอผมขึ้น ป.2 เขาก็ทุบทิ้ง สมัยนั้นการละเล่นของเด็ก ๆ ผู้ชาย ก็จะมีพวก
ภาพเขี่ยเป็นสติกเกอร์เกี่ยวกับการ์ตูนนี่แหล่ะ อยู่ในกล่องขนมข้าวโพดเคลือบช็อคโกแล็ต (ความอร่อยก็งั้น ๆ) แต่ที่อยากได้คือภาพสติกเกอร์ด้านใน มีสมุดสะสมด้วยนะ สะสมครบสามารถแลกของรางวัลยั่วใจได้ด้วย (ไม่อยากจะบอกว่าสะสมไม่เคยครบ ขาดภาพสองภาพตลอด เพราะมันจะเห่อช่วงแรก พอช่วงจะหมดเขตไอ้ภาพที่เราหาย ๆ อยู่มันก็เริ่มโผล่มา แต่สุดท้ายก็ไม่ครบอยู่ดี)  มีเพื่อนแสบ ๆ ไปหาหนังสือโป้มาเปิดดู แต่ก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไร มีเพื่อนคนหนึ่งชอบเปิดกระโปรงผู้หญิง 

มีหนังสือการ์ตูน เล่มที่ผมอ่านติดมากก็คือหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ เล่มนั้นก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ไงเหมือนกันจำไม่ได้ จำไม่ได้ว่าใครนำอ่าน แต่คงจะเป็นเพราะเมื่อก่อนพ่อทำร้านตัดผมก็จะมีหนังสือพิมพ์ หนังสืออะไรบ้างก็ไม่รู้ ขายหัวเราะก็มีนะ  อันนี้เป็นข้อสังเกตุของผมนะ ถ้าเราอยากให้ลูกอ่านหนังสือเราก็ต้องอ่านหนังสือให้ลูกดูก่อน เหมือนพ่อผมที่จะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตอนไม่มีลูกค้ามาตัดผม -  จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังอ่าหนังสือการ์ตูนอยู่ (สมัยนั้นการ์ตูนมันจะไม่มีลิขสิทธิ์) 

ปาดินน้ำมัน อันนีก็ไปซื้อมาดินน้ำมันแผ่นสี่เหลี่ยมก้อนละ 1 บาท ซึ้อห้าก้อนเราก็ได้ดินน้ำมันก้อนย่อม ๆ แล้ว (เป็นที่นับหน้าถือตาแล้ว)  เอามาผสมกันแรก ๆ ก็สีสวยหรอก การเล่นก็จะต้องเล่นกับเพื่อน ถ้าเราปาโดนลูกของเพื่อนที่อยู่บนพื้น แล้วมันติดลูกของเราจนยกขึ้นมาได้ไม่หล่น ดินน้ำมันของเพื่อนก็จะเป็นของเรา ก็ผลัดกัน เวลาเพื่อนปาเราก็ต้องมานั่งลุ่นว่าอย่าให้เพื่อนปาโดน ไม่งั้นเราก็เสียดิน แรกๆ นี่สีอย่างสวย เล่นไปเล่นมากลายเป็นสีดำ แล้วก็ชอบเอาไปตากแดดมันจะเหลว ๆ นิ่ม ๆ ดี

เล่นยานบินฐานทัพ (ที่มีกระดาษเพื่อนอยู่ตรงข้ามกับเรา วาดรูปฐานทัพ จากนั้นก็เอาปากกากดปลาย แล้วค่อย ๆ ขยับนิ้ว พอเอนได้ระยะปากกาก็จะลากออกไป สิ้นจุดไหนก็ไปวาดยาน ถ้าเส้นไปขีดโดนยานเพื่อนเราก็จะบึ้มยานเพื่อน ถ้าไปโดนฐานทัพเพื่อนก็บึ้มฐานทัพเพื่อน เล่นจนกระดาษเต็มไปด้วยน้ำหมึกแหล่ะ) 

เล่นว่าว พอปิดเทอมทีไรไม่ได้ไปโรงเรียน ... กลางวันบ่าย ๆ ก็เอาแล้วออกไปที่ทุ่งที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านแม่สมัยก่อนมันไม่มีใครมาสร้างบ้านไว้ เป็นทุ่งกว้าง ๆ ฝุ่นตลบ ก็จะวิ่งว่าวกัน ก็จะมีทั้งว่าวที่ทำเอง กับว่าวที่ซื้อมา สมัยนั้นว่าวที่ซื้อมาต้องร้านลุงเหลิมอยู่ตีนสะพานจอมเกล้า  ขึ้นดีจริง ๆ ใส่หางยาว ๆ พอขึ้นไปมันก็นิ่ง พอตะวันเริ่มจะคล้อยเย็นก็เอาว่าวลงแล้วก็กลับบ้าน

เป่ากบ เป่ากบนี่มันมีสองอย่างคือเป็นยางวง ๆ อันนี้พวกผู้หญิงชอบเล่นเหมือนกันเพราะเวลามันกินเรามันก็จะเอาไปร้อยยางไว้กระโดด มันมีอีกแบบหนึ่งก็คือใต้ฝาน้ำอัดลม พวกฝาจีบอ่ะนะ ด้านล่างมันจะเป็นยางสีขาว ๆ ไว้คอยกันไม่ให้น้ำรั่วออกมา พอลอกมันออกมาจากฝาอีกด้านหนึ่งของมันจะมีภาพสวย ๆ สมัยก่อน เป็นการ์ตูน สีสวยสดเลยหล่ะ  เสียดายไม่ได้เก็บไว้ มันจัดว่าเป็นศิลปะเลย เพราะชอบมากสวยดี 

เล่นน้ำที่ท่าน้ำวัดอัมพวัน เดี๋ยวนี้น้ำเปลี่ยนสีไปแล้ว ไม่เห็นมีใครกล้าอาบอีกแล้วหล่ะมั้ง สมัยเด็ก ๆ นะโหไปกันเยอะมาก เด็ก ๆ ในละแวกนั้นพอหน้าร้อน ปิดเทอมอะไรแบบเนี้ยะ เพราะเมื่อก่อนหน้าฝนน้ำก็เยอะสีน้ำตาลแบบนี้ไม่น่าเล่น หน้าหนาว เลิกพูด สมัยก่อนยังมีหน้าหนาว หนาวทีสี่เดือนงี้ น้ำท่าแทบไม่อยากจะอาบกันเลยทีเดียว แต่ก็แม่ให้อาบทุกทีหล่ะ อย่างดีก็คือต้มน้ำอุ่นมาอาบ

ของเล่นต่าง ๆ เช่นพวกรถบังคับ สมัยก่อนเป็นแบบมีสายนะ มีอยู่คันหนึ่งรักมากมีไฟติดด้วย สมัยนี้ไม่มีแล้วแบบมีสาย สมัยก่อนซ่อมไม่เป็นหรอก แต่ถ้ามาสมัยนี้ก็คงซ่อมเล่นได้สบายใจเลยหล่ะ  เกมส์กด อันนี้ก็เป็นของเล่นแรก ๆ เลย ผมเชื่อว่าที่ทำให้ผมอยู่ในแวดวงของคอมพิวเตอร์นี้ ก็เพราะสิ่งของชิ้นนี้แหล่ะ พวกเกมส์กดที่เป็นเกมส์รถแข่ง แต่ไม่ได้แข่งหรอกนะ ขับข้ามฝาก ข้ามฝากไปมาให้ได้ เสมือนหนึ่งว่ารถขับเร็วต้องคอยหลบท้ายรถคู่แข่งให้ได้ ใส่ถ่านกระดุมหนึ่งหรือสองก้อน ก็เล่นได้อยู่หลายวัน ตั้งปลุกได้ด้วยนะ สมัยนี้มีขายที่ไหนบ้างนะ อยากได้อ่ะ อย่างน้อยก็เอามาเป็นนาฬิกาปลุกก็มีความสุขแล้ว  แล้วก็พวกขวบนการห้าสี กดปุ่มปล่อยหมัดได้ คลาสสิคโคตร ๆ  สมัยนี้ไม่มีขายแล้ว แต่ที่มีขายอยู่ก็คือปืน M-16 อันนี้ยังฮิตมาจนถึงทุกวันนี้

วีดีโอเกมส์ ร้านป้าหน้าโรงเรียนวัดดอน เด็กแน่นทุกวันขายดีทุกวัน เป็นแหล่งรวมของล่อตาล่อใจเด็กทุกแขนงเลย ตั้งแต่ขนม ขนมแปลก ๆ ที่เราไม่สามารถหาได้ตามร้านยายเลียง (เป็นร้านแถวบ้าน) ร้านเกมส์ก็เป็นของป้าเขาแหล่ะ 5 บาท 15 นาที เครื่องซุปเปอร์แฟมิคอมมั้ง แต่มีเครื่องหลายรุ่นที่จำได้ก็ก็มี แฟมิลี่ เมก้าไดรฟ์ มั้งจำไม่ได้แล้ว สมัยก่อนอยากให้บ้านมีบ้างแต่ ... ไม่มี (ฮ่า ๆ)  เกมส์ตู้ในระยะหลัง ๆ ก็มีสตรีทไฟเตอร์ เล่นไม่เป็นกันหรอก หยอดเหรียญแล้วก็ให้เพื่อนมาช่วยมั่ว ๆ สกรัมกัน (นึก ๆ แล้วก็สงสารตู้เกมส์สมัยนั้น มิน่าหล่ะ ลุงจึงมาเอ็ดตลอด เพราะเล่นไม่เหมือนผู้เหมือนคนนั่นเอง) พอเทศกาลลอยกระทงนะ ร้านป้าก็จะมีปะทัดขายด้วย แต่ความจริงก็มีทั้งปีแหล่ะ คือมันเหลือมาจากเทศกาล  พอโรงเรียนย้ายก็สงสารแกจังเลย เดี๋ยวนี้เห็นแต่ลุงก็ยังแข็งแรงเดินเหินคล่องแคล่วดี เผลอ ๆ จะเดินคล่องกว่าผมเสียอีก

พอประถมปลาย ก็เริ่มแอบชอบผู้หญิง เหอ ๆ

สมัยเด็ก ๆ นี่สนุกมาก เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขเลยหล่ะ นี่ผมคงแก่แล้วสินะ ....

1 ความคิดเห็น: